สำหรับใครที่เคยใช้หูฟังบลูทูธจะรู้เลยว่าระบบตัดเสียงรบกวนในขณะคุยมีความสำคัญมาก เพราะในชีวิตประจำวันเราไม่ได้ใช้งานอยู่ที่บ้านเงียบๆ เพียงอย่างเดียว แต่ยังต้องใช้ในที่ทำงาน ข้างนอกบ้าน เช่น ในโรงงาน ไซต์งานก่อสร้าง หรือแม้กระทั่งตอนขับขี่มอเตอร์ไซค์ซึ่งมีเสียงรบกวนรอบข้างดังๆ ตลอดเวลา ดังนั้น เราจึงจำเป็นต้องหาหูฟังบลูทูธที่มีระบบตัดเสียงรบกวนดีๆ ให้คู่สนทนาของเราได้ยินเสียงชัดเจน เพื่อให้การเจรจาธุรกิจลื่นไหลไม่ติดขัด สามารถสื่อสารกันได้อย่างราบรื่น

วันนี้แอดมินจะมารีวิวหูฟังบลูทูธรุ่นท็อปสุดของยี่ห้อ Kawa นั่นคือรุ่น Kawa K20 เป็นหูฟังที่มาพร้อมกับระบบตัดเสียงรบกวนอัจฉริยะ AI และแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ยาวนานถึง 22 ชั่วโมงต่อการชาร์จเพียงครั้งเดียว! รองรับการเชื่อมต่อกับมือถือและคอมพิวเตอร์ โดยช่วงท้ายจะมีการทดสอบระบบตัดเสียงรบกวนสุดโหด ว่าจะเทพขนาดไหน อย่าลืมติดตามชมกันนะครับ

Unbox แกะกล่อง

ภายในกล่องของ Kawa K20 จะมีกล่องเคสสำหรับเก็บหูฟังมาให้ด้วย แนะนำว่าเวลาเลิกใช้งานแล้วให้เก็บลงกล่องทุกครั้งเพื่อป้องกันตัวหูฟังไปกระแทกกับสิ่งของอย่างอื่น จะได้มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน นอกจากนั้นยังมีจุกหูฟังแถมมาให้เปลี่ยน 2 ชิ้น และสายชาร์จแบบ Type-C ครับ

ตัวหูฟังทำจากวัสดุคุณภาพดี มีความยืดหยุ่น สามารถใส่ได้ทั้งหูซ้ายและขวา มีปุ่มเพิ่ม-ลดเสียง, ปุ่ม Mute สำหรับปิดเสียงไมค์ และปุ่มเรียกใช้งาน Siri หรือ Google Assistant ได้ในตัว เรียกได้ว่าควบคุมทุกอย่างผ่านหูฟังได้เลยโดยที่ไม่ต้องหยิบมือถือขึ้นมา รุ่นนี้ยังกันน้ำกันเหงื่อได้มาตรฐาน สามารถใส่ออกกำลังกายหรือโดนฝนเล็กน้อยได้สบายๆ ครับ

รายละเอียดสินค้าและสเปคจัดเต็ม

• บลูทูธเวอร์ชัน 5.0 ใช้ชิปเซ็ตนำเข้าจากประเทศอังกฤษ Qualcomm QCC3020
• สนทนาต่อเนื่องสูงสุด 22 ชั่วโมง เปิดรอรับสายได้นานถึง 600 ชั่วโมง
• มาพร้อมระบบ AI Noise Cancelling ตัดเสียงรบกวนรอบข้างได้อย่างมีประสิทธิภาพ
• รองรับ HD Voice และ AptX HD เพื่อเสียงสนทนาที่คมชัดระดับ HD
• ไมโครโฟนคู่ พร้อมก้านไมค์ยาว รับเสียงพูดได้ชัดเจน ไม่ต้องตะโกน
• น้ำหนักเบา ใส่สบายตลอดวัน สามารถใส่ได้ทั้งข้างซ้ายและขวา
• ปุ่มควบคุมครบครัน มีปุ่มเพิ่ม-ลดเสียง และปุ่มปิดเสียงไมโครโฟน (Mute) ที่ตัวหูฟัง
• เชื่อมต่อได้ไกล สูงสุดถึง 60 เมตรในที่โล่ง (เมื่อใช้กับมือถือที่รองรับ Bluetooth 5.0)
• กันน้ำ กันเหงื่อ
• รองรับ Fast Charge ผ่านพอร์ต Type-C ชาร์จไวเพียง 5-10 นาที ก็ใช้งานได้ยาวๆ

คุณภาพไมโครโฟนและการตัดเสียงรบกวน

หัวใจหลักของรุ่นนี้คือเรื่องไมโครโฟนและระบบตัดเสียงรบกวนครับ Kawa K20 มาพร้อมระบบ AI Noise Cancelling ที่ทำงานร่วมกับชิปเซ็ตของ Qualcomm ทำให้สามารถแยกเสียงพูดของเราออกจากเสียงรบกวนรอบข้างได้อย่างเฉียบขาด จากการทดสอบในคลิปวิดีโอ ไม่ว่าจะเป็นเสียงดังจากในโรงงาน หรือเสียงลมขณะขับขี่มอเตอร์ไซค์ ปลายสายยังคงได้ยินเสียงพูดที่ชัดเจนมากๆ บอกเลยว่าตัวนี้เอาอยู่ทุกสถานการณ์ ไม่ทำให้การสื่อสารสำคัญๆ ของคุณต้องสะดุด

นอกจากนี้ การออกแบบให้มีก้านไมโครโฟนยาวออกมาใกล้ปาก ทำให้รับเสียงพูดได้โดยตรงและชัดเจนยิ่งขึ้น โดยที่เราไม่ต้องตะเบ็งเสียงแข่งกับเสียงรบกวนเลยครับ

ลำโพงสำหรับการสนทนาและการฟังเพลง

ตัวลำโพงถูกปรับจูนมาเพื่อการสนทนาโดยเฉพาะ จะเน้นเสียงกลางที่คมชัด ทำให้ได้ยินเสียงของคู่สนทนาเคลียร์มากๆ ระดับความดังของเสียงก็ทำได้ดีเยี่ยม ส่วนการฟังเพลงก็ถือว่าทำได้ดีในระดับหนึ่ง มีเบสให้พอรู้สึกสนุก อาจจะไม่ใช่หูฟังสำหรับ Audiophile แต่ถ้าเน้นใช้คุยโทรศัพท์เป็นหลักแล้วฟังเพลงบ้าง ถือว่าตอบโจทย์ได้ดีเลยทีเดียว

แบตเตอรี่สุดอึด

Kawa K20 ระบุสเปคว่าสามารถคุยต่อเนื่องได้นานสูงสุดถึง 22 ชั่วโมง ที่ระดับความดัง 50% จากการทดสอบจริงก็ใช้งานได้ยาวนานใกล้เคียงกับที่เคลมไว้เลยครับ เรียกว่าชาร์จครั้งเดียวใช้งานปกติได้ 2-3 วันสบายๆ หมดกังวลเรื่องแบตจะหมดระหว่างวันไปได้เลย แถมยังรองรับ Fast Charge ผ่านพอร์ต Type-C ที่ชาร์จแค่ 5-10 นาที ก็สามารถใช้งานต่อได้อีกหลายชั่วโมง

คุณสมบัติพิเศษ: รองรับ AptX HD

สำหรับผู้ใช้งานมือถือ Android รุ่นนี้มีของดีซ่อนอยู่คือการรองรับ AptX HD ซึ่งเป็นระบบส่งสัญญาณเสียงคุณภาพสูง ทำให้เสียงที่ได้ยินทั้งตอนคุยและฟังเพลงมีคุณภาพดีขึ้น คมชัดขึ้น เหมือนฟังจากแผ่นซีดีเลยทีเดียว ส่วนผู้ใช้งาน iPhone อาจจะไม่รองรับฟีเจอร์นี้ แต่คุณภาพเสียงพื้นฐานที่ได้ก็ถือว่าชัดเจนมากอยู่แล้วครับ

สรุป

Kawa K20 เป็นหูฟังบลูทูธที่เกิดมาเพื่อการสนทนาอย่างแท้จริง โดดเด่นด้วยระบบตัดเสียงรบกวน AI ที่ทำงานได้อย่างยอดเยี่ยม ไมโครโฟนคมชัด แบตเตอรี่ที่อึดสุดๆ ถึง 22 ชั่วโมง และสเปคที่จัดเต็มมาให้แบบไม่มีกั๊ก สำหรับใครที่ต้องคุยโทรศัพท์บ่อยๆ ในสภาพแวดล้อมที่มีเสียงดัง หรือต้องการหูฟังที่เชื่อถือได้สำหรับการทำงานและการเจรจาธุรกิจ Kawa K20 คือคำตอบสุดท้าย บอกเลยว่า "ตัวเดียวจบ" และคุณจะรู้ว่าของดีมีคุณภาพเป็นอย่างไรครับ